บาคาร่าคืออะไร

บาคาร่าคืออะไร บาคาร่า (Baccarat) เป็นเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมมากในคาสิโนทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชียและยุโรป เกมนี้มีความเรียบง่ายในการเล่นและมีกฎที่ไม่ซับซ้อน ทำให้เป็นที่นิยมทั้งในหมู่ผู้เล่นใหม่และผู้เล่นที่มีประสบการณ์

วิธีการเล่นบาคาร่า

ผู้เล่น Player และ เจ้ามือ Banker เป็นสองฝ่ายหลักที่ผู้เล่นสามารถวางเดิมพันได้ เกมจะเริ่มด้วยการแจกไพ่สองใบให้กับทั้งฝ่ายผู้เล่นและฝ่ายเจ้ามือ เป้าหมายของเกมคือการทายว่าฝ่ายใดจะมีแต้มรวมใกล้เคียงกับ 9 มากที่สุด ไพ่ 2-9 มีค่าตามเลขหน้าไพ ไพ่ 10 J Q K มีค่าเท่ากับ 0 และไพ่ Ace มีค่าเท่ากับ 1 การเล่นบาคาร่าเป็นเกมที่ไม่ซับซ้อน และผู้เล่นไม่จำเป็นต้องมีทักษะพิเศษใดๆ ก็สามารถเข้าร่วมได้ นี่คือวิธีการเล่นบาคาร่าแบบพื้นฐาน วางเดิมพัน ผู้เล่น Player เดิมพันว่าฝั่งผู้เล่นจะชนะ เจ้ามือ Banker เดิมพันว่าฝั่งเจ้ามือจะชนะ เสมอ Tie เดิมพันว่าทั้งสองฝั่งจะมีแต้มเท่ากัน การแจกไพ่ ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่สองใบให้กับฝั่งผู้เล่นและฝั่งเจ้ามือ โดยไพ่จะแจกสลับกันเริ่มจากผู้เล่น ไพ่แต่ละฝั่งจะถูกแจกหงายหน้า การนับแต้ม ไพ่ 2-9 มีค่าตามหน้าไพ่ 10 J Q K มีค่าเท่ากับ 0 ไพ่ A มีค่าเท่ากับ 1 กฎการจั่วไพ่ใบที่สาม ถ้าไพ่สองใบแรกของทั้งสองฝ่ายมีแต้มรวม 8 หรือ 9 เกมจะหยุดและตัดสินผลทันที เรียกว่า Natural ถ้าไม่มีฝ่ายใดได้แต้มรวม 8 หรือ 9 ดีลเลอร์อาจจะจั่วไพ่ใบที่สามตามกฎที่กำหนดไว้ ฝั่งผู้เล่น ถ้าแต้มรวมของไพ่สองใบแรกอยู่ระหว่าง 0-5 ผู้เล่นจะจั่วไพ่ใบที่สาม ฝั่งเจ้ามือ การจั่วไพ่ใบที่สามของเจ้ามือจะขึ้นอยู่กับผลรวมของฝั่งผู้เล่นและไพ่ใบที่สามของฝั่งผู้เล่น ถ้ามี การตัดสินผล ฝั่งที่มีแต้มรวมใกล้เคียงกับ 9 มากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะหากผู้เล่นวางเดิมพันถูกฝั่ง จะได้รับเงินรางวัลตามอัตราที่กำหนด: เดิมพันฝั่งผู้เล่นชนะ จ่าย 1:1 เดิมพันฝั่งเจ้ามือชนะ จ่าย 1:1 แต่ต้องหักค่าคอมมิชชั่น 5% เดิมพันเสมอ จ่าย 8:1 หรือ 9:1 ขึ้นอยู่กับกฎของคาสิโน การเล่นรอบต่อไป หลังจากจบรอบหนึ่ง ดีลเลอร์จะเก็บไพ่และเริ่มรอบใหม่ ผู้เล่นสามารถเลือกวางเดิมพันในฝั่งใดก็ได้ หรือเปลี่ยนฝั่งที่ต้องการเดิมพันในรอบถัดไป นี่คือวิธีการเล่นบาคาร่าที่ง่ายและตรงไปตรงมา ผู้เล่นสามารถสนุกกับเกมได้โดยไม่ต้องมีกฎหรือกลยุทธ์

กฎการนับแต้ม

หากผลรวมของไพ่เกิน 9 จะนับเฉพาะหลักหน่วย เช่น ได้ไพ่ 7 และ 5 รวมกันเป็น 12 จะนับเป็น 2 กฎการนับแต้มในเกมบาคาร่าเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เล่นควรรู้เพื่อเข้าใจผลของเกมได้อย่างถูกต้อง กฎเหล่านี้ค่อนข้างง่ายและตรงไปตรงมาการนับแต้มของไพ่

• ไพ่หมายเลข 2-9 นับแต้มตามตัวเลขบนหน้าไพ่ เช่น ไพ่เลข 3 มีค่าเท่ากับ 3 แต้ม
• ไพ่ 10 J Q K มีค่าเท่ากับ 0 แต้ม
• ไพ่ A เอซ มีค่าเท่ากับ 1 แต้มการคำนวณแต้มรวม
• แต้มรวมของมือจะคำนวณโดยการนำค่าของไพ่แต่ละใบมาบวกกัน
• หากผลรวมของแต้มมากกว่า 9 จะนับเฉพาะตัวเลขหลักหน่วยเท่านั้น เช่น ถ้าผลรวมเป็น 15 จะนับเป็น 5 แต้ม

ตัวอย่างการนับแต้ม

ในเกมบาคาร่า การเดิมพันเป็นสิ่งที่ผู้เล่นต้องทำก่อนที่จะเริ่มรอบการเล่น ผู้เล่นสามารถเลือกวางเดิมพันในตัวเลือกต่าง ซึ่งแต่ละตัวเลือกมีอัตราการจ่ายเงินที่แตกต่างกัน นี่คือรายละเอียดของการเดิมพันในบาคาร่า

เดิมพันผู้เล่น Player Bet

• เดิมพันว่าฝั่งผู้เล่นจะมีแต้มสูงกว่าฝั่งเจ้ามือ
• อัตราการจ่ายเงิน 1:1 เดิมพัน 100 บาท ชนะจะได้ 100 บาท

เดิมพันเจ้ามือ Banker Bet

• เดิมพันว่าฝั่งเจ้ามือจะมีแต้มสูงกว่าฝั่งผู้เล่น
• อัตราการจ่ายเงิน 1:1 แต่ต้องหักค่าคอมมิชชั่น 5% ให้กับคาสิโน ดิมพัน 100 บาท ชนะจะได้ 95 บาท

เดิมพันเสมอ Tie Bet

• เดิมพันว่าฝั่งผู้เล่นและฝั่งเจ้ามือจะมีแต้มเท่ากัน
• อัตราการจ่ายเงิน 8:1 หรือ 9:1 ขึ้นอยู่กับกฎของคาสิโน เดิมพัน 100 บาท ชนะจะได้ 800 หรือ 900 บาท

• ถ้าไพ่สองใบคือ 7 และ 6 แต้มรวมจะเป็น 13 ซึ่งจะนับเป็น 3 แต้ม
• ถ้าไพ่สองใบคือ 9 และ 3 แต้มรวมจะเป็น 12 ซึ่งจะนับเป็น 2 แต้ม
• ถ้าไพ่สองใบคือ 5 และ 4 แต้มรวมจะเป็น 9 ซึ่งเป็นแต้มสูงสุดในเกมบาคาร่า

การเดิมพัน

• เดิมพันผู้เล่น Player Bet เดิมพันว่าผู้เล่นจะชนะ
• เดิมพันเจ้ามือ Banker Bet เดิมพันว่าเจ้ามือจะชนะ
• เดิมพันเสมอ Tie Bet เดิมพันว่าทั้งสองฝ่ายจะมีแต้มเท่ากัน

อัตราการจ่ายเงิน

• เดิมพันผู้เล่น จ่าย 1:1
• เดิมพันเจ้ามือ จ่าย 1:1 แต่ต้องหักค่าคอมมิชชั่น 5% ให้กับคาสิโน
• เดิมพันเสมอ จ่าย 8:1 หรือ 9:1 ขึ้นอยู่กับกฎของคาสิโนแต่ละแห่ง

บาคาร่าเป็นเกมที่เล่นได้ง่ายและรวดเร็ว ทำให้เป็นเกมที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสนุกและท้าทายในการเสี่ยงโชค การเลือกเดิมพันขึ้นอยู่กับความชอบและกลยุทธ์ของผู้เล่น การทำความเข้าใจความเสี่ยงและโอกาสในการชนะจะช่วยให้ผู้เล่นสามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น